โบสถ์แซ็งต์-ชาแปล
ประวัติ
แซ็งต์-ชาแปล ที่ตั้งอยู่ลานของพระราชวังหลวงสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่เก็บรักษาเรลิกแห่งแซ็งต์-ชาแปล เช่น มงกุฎหนามของพระเยซู, ภาพเอเดสซา และเรลิกอื่น ๆ เกี่ยวกับพระเยซูอีกสามสิบชิ้นที่เดิมเป็นของพระเจ้าหลุยส์ที่ 9 ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ค.ศ. 1239 ที่ทรงได้รับจากนักบวชคณะดอมินิกันสององค์ที่เวนิส พระเจ้าหลุยส์ทรงทำการซื้อเรลิกที่เกี่ยวกับพระทรมานของพระเยซูจากจักรพรรดิละตินแห่งคอนสแตนติโนเปิล, จักรพรรดิบอลด์วินที่ 2 แห่งคอนสแตนติโนเปิลเป็นจำนวนเงินมหาศาลถึง 135,000 ลีฟวร์ตูร์นัวที่จ่ายให้แก่พ่อค้าชาวเวนิสที่สมบัติเหล่านี้ถูกจำนำอยู่ ค่าก่อสร้างแซ็งต์-ชาแปลเองที่เป็นที่เก็บตกมงคลวัตถุราคาเพียง 40,000 ลีฟวร์ตูร์นัว ก่อนหน้าที่จะสร้างเสร็จ เรลิกได้รับการเก็บรักษาไว้ที่พระราชวังแวงแซนส์ และในชาเปลที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะที่พระราชวังแซ็ง-แฌร์แม็ง-อ็อง-แล ในปี ค.ศ. 1241 ก็ได้เรลิกเพิ่มขึ้นที่รวมทั้งไม้กางเขนแท้และอื่น ๆ ฉะนั้นแซ็งต์-ชาแปลที่เสกเมื่อวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 1248 จึงเป็นเสมือน “หีบบรรจุวัตถุมงคล” (Reliquary)ในขณะเดียวกันก็เป็นการเผยถึงความทะเยอทยานของพระเจ้าหลุยส์ทางการเมืองและทางวัฒนธรรม เมื่อประมุขของบัลลังก์คอนสแตนติโนเปิลมีบรรดาศักดิ์เป็นเพียงเคานต์แห่งฟลานเดอร์ และจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์อยู่ในสภาวะที่ยุ่งเหยิงสับสนในการที่จะเป็นผู้นำของจักรวรรดิคริสเตียนตะวันตก แซ็งต์-ชาแปลเป็นตัวอย่างสำคัญของการวิวัฒนาการของสถาปัตยกรรมแรยอน็องซึ่งเป็นสมัยหนึ่งของสถาปัตยกรรมกอทิก ที่เป็นลักษณะของสถาปัตยกรรมที่พยายามทำให้สิ่งก่อสร้างดูเหมือนปราศจากน้ำหนัก เชื่อกันว่าสถาปนิกผู้ออกแบบชาเปลคือปีแยร์เดอมงเตอโร ตัวชาเปลตั้งอยู่ในวังหลวงซึ่งเป็นวัดสำหรับผู้ที่ประทับและอาศัยอยู่ในพระราชวัง ซึ่งเป็นที่ทำการของรัฐบาล
สิ่งที่เด่นที่สุดของแซ็งต์-ชาแปลคือหน้าต่างประดับกระจกสีที่แคบและสูงและตกแต่งด้วยกระจกที่เป็นสีแพรวพราว หน้าต่างกุหลาบมาเพิ่มเติมบนชั้นบนของชาเปลภายหลังในคริสต์ศตวรรษที่ 15
หน้าต่างประดับกระจกสี
หน้าต่างกุหลาบ
ชาเปลที่เห็นในปัจจุบันเป็นงานที่สร้างใหม่ แต่สองในสามของหน้าต่างประดับกระจกสีเป็นหน้าต่างดั้งเดิม ชาเปลได้รับความเสียหายอย่างหนักในคริสต์ศตวรรษที่ 18 ระหว่างการปฏิวัติฝรั่งเศส เมื่อยอดและเบญจาถูกรื้อ และเรลิกกระจัดกระจายหายไป ยังคงเหลืออยู่แต่ “เรลิกแห่งแซ็งต์-ชาแปล” ที่ปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ที่มหาวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีส แต่หีบเก็บวัตถุมงคลที่รวมทั้ง “grande châsse” ถูกหลอม แซ็งต์-ชาแปลถูกเวนคืนเป็นหอเอกสารในปี ค.ศ. 1803 หน้าต่างยาวสองเมตรต้องถูกรื้อออกเพื่อให้แสงส่องเข้ามาได้มากขึ้นงานบูรณปฏิสังขรณ์ที่ได้รับการบันทึกอย่างถี่ถ้วนทำโดยเออแฌน วียอแล-เลอ-ดุกในปี ค.ศ. 1855 ถือกันโดยผู้ร่วมสมัยว่าเป็นงานบูรณปฏิสังขรณ์ชั้นเยี่ยม และเที่ยงตรงต่อภาพวาดและคำบรรยายดั้งเดิมของชาเปลที่ยังหลงเหลืออยู่แซ็งต์-ชาแปลมีฐานะเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์แห่งฝรั่งเศสมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1862
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น