ความลับของน้ำหอม
ปฏิเสธไม่ได้ว่า “ น้ำหอม”
คือเครื่องสำอางที่ยังคงเติบโตต่อไปอย่างไม่มีวันหยุด
แม้เวลาจะผ่านไปนานเพียงใดก็ตาม
ด้วยน้ำหอมคือเสน่ห์ที่สามารถใช้ปรุงแต่งให้ผู้ใช้กลายเป็นบุคคลที่น่าสนใจ
ได้ในพริบตา และเสน่ห์ที่ลึกล้ำของน้ำหอมแต่ละกลิ่น
ล้วนมีที่มาที่น่าตื่นเต้นน่าสนใจไม่แพ้ประวัติของอัญมณีมีค่าแม้แต่น้อยใคร
จะคิดว่าอุตสาหกรรมน้ำหอมจะทำรายได้ได้ถึงปีละกว่าหนึ่งพันล้านเหรียญ
อเมริกันเมื่อก้าวเข้าสู่สหัสวรรษใหม่ ว่ากันว่า ณ
วันนี้ผู้หญิงทั่วโลกใช้น้ำหอมเฉลี่ยถึงคนละ 6 กลิ่น
นอกเหนือไปจากน้ำหอมกลิ่น “พิเศษ”
ที่แต่ละคนจะไม่ยอมบอกใครเป็นอันขาดถึงน้ำหอมกลิ่นลับสุดยอดของตัวเอง
Grasse เมืองแห่งน้ำหอมของฝรั่งเศส และ
ใช่เพียงแต่ผู้หญิงเท่านั้นปัจจุบันผู้ชายอย่างน้อยกว่าร้อยล้านคนทั่วโลก
ต่างก็เป็นผู้บริโภคน้ำหอมกันโดยถ้วนหน้า
เรียกว่าใช้กันไม่แพ้ผู้หญิงเลยทีเดียว
เพราะนอกจากพ่อเจ้าประคุณทั้งหลายจะใช้น้ำหอมกลิ่นอ่อนๆหลังอาบน้ำประเภท
eau de toilet แล้ว
น้ำหอมหลังโกนหนวดก็ยังเป็นสินค้าที่ขายดีติดอันดับด้วยเช่นเดียวกันตั้งแต่
ยุคโบราณมนุษย์เริ่มรู้จักนำเครื่องหอมมาใช้เพื่อระงับกลิ่นกาย
ภายหลังการชำระล้างร่างกายก่อนที่จะทำการบวงสรวงเทพเจ้าพื่อให้ร่างกายมี
กลิ่นที่สดชื่น
และจากการใช้กลิ่นหอมเหล่านี้ผลพลอยได้ก็คือผู้ที่อยู่รอบข้างเมื่อได้กลิ่น
ก็เกิดความนิยมชมชื่นใช่เพียงแต่เพื่อเทพเจ้าเท่านั้น
ผู้ที่ใกล้ชิดที่สุดก็คือผู้เป็นชายาหรือสวามีของผู้ใช้ซึ่งล้วนเป็นบุคคล
ชั้นปกครองนั่นเองจากนั้นได้มีการจำแนกกลิ่นของหอมจากแหล่งที่มาต่าง ๆ
ทั้งดอกไม้ พืช ดินบางชนิดไปจนถึงกลิ่นที่มาจากสัตว์
นำมาสกัดและใช้ผสมกับน้ำมันเพื่อสะดวกในการแต่งแต้มไปบนส่วนต่างๆของร่างกาย
ซึ่งค้นพบในเวลาต่อมาว่ากลิ่นของน้ำมันหอมจะเปลี่ยนไปตามกลิ่นเหงื่อและ
อุณหภูมิของผู้ใช้
ขวดน้ำหอมสไตล์ฝรั่งเศส
การใช้เครื่องหอมนอกจากจะเป็นการเพิ่มเสน่ห์ให้กับผู้ใช้แล้วยังเป็นการช่วย
ผ่อนคลายความเครียดและความว้าวุ่นทางอารมณ์ได้ด้วย
จึงมีการนำเครื่องหอมมาใช้ในการบำบัดภาวะทางจิตเป็นบางกรณี
อันเป็นต้นกำเนิดของการใช้สุวคนธ์บำบัดการค้าเครื่องหอมเริ่มมีความสำคัญที
ละน้อย จากเดิมที่นิยมกันตามท้องถิ่นนั้น ๆ
จนเมื่อการคมนาคมเจริญขึ้นทำให้เกิดความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจาก
ดินแดนในทวีปต่างๆ
การเดินทางของเครื่องหอมได้เพิ่มมูลค่าอย่างไม่มีขีดจำกัด
เครื่องหอมเหล่านี้จึงกลายเป็นสินค้าประเภทฟุ่มเฟือยมาแต่โบราณกาล
แต่ปริมาณการผลิตยังไม่มากเท่ากับความต้องการของผู้ใช้จึงทำให้การตั้งราคา
เป็นไปตามความพอใจของผู้ขายมากกว่าผู้ซื้อ
ดังนั้นจึงเริ่มมีการนำกลิ่นหอมต่างๆมาผสมขึ้นด้วยกลเม็ดและความชำนาญอัน
เกิดจากประสบการณ์
ตลาดเครื่องหอมจึงเป็นตลาดของชนชั้นสูงเท่านั้นการตั้งห้องทดลองเพื่อค้น
คว้า สกัดกลิ่น
และผสมเครื่องหอมต่างๆเริ่มแพร่หลายในยุคต่อมาจนกระทั่งถึงยุคกลาง
จากนั้นในยุคของศตวรรษที่ 16
เริ่มมีการนำน้ำหอมมาผสมกับสารอื่นๆเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ที่ต่างกันออกไป
เช่นใช้กับเครื่องเรือน ถุงมือ พัด
จนถึงการนำไปผสมกับผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ใช้ในห้องน้ำเช่นสบู่หอม น้ำยาบ้วนปาก
ขวดน้ำหอมทำจากเซรามิก
ลวดลายงดงามหลังยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมยุโรปทั้งทวีปเข้าสู่ยุคทองของเศรษฐกิจที่
เจริญก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว ความมั่งคั่งได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งทวีป
จึงมีการผลิตน้ำหอมออกสู่ท้องตลาดในผลิตภัณฑ์บรรจุที่งดงาม
มีทั้งการออกแบบขวดและภาชนะบรรจุอย่างประณีต
มีการนำขวดแก้วเจียรนัยจากหินผลึกทั้งขาวใสและสีต่างๆ
ประดับด้วยลวดลายที่เขียนจากทองคำ
จนกลายเป็นสินค้าที่หรูหราที่เหล่าสตรีผู้สูงศักดิ์และมั่งคั่งจะต้องเสาะหา
มาประดับห้องน้ำและโต๊ะกระจกเครื่องแป้งนักเคมีชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ปรับปรุง
น้ำหอมจากน้ำหอมแบบโบราณให้เป็นน้ำหอมที่ทันสมัยด้วยความรู้และความสามารถ
ประกอบกับความพิถีพิถันละเอียดลออ
ทำให้น้ำหอมของฝรั่งเศสเริ่มเป็นที่กล่าวขวัญและต้องการในศตวรรษที่ 20
จากการตั้งชื่อกลิ่นของน้ำหอมในเชิงโรแมนติค
ทั้งยังมีการออกแบบขวดบรรจุและฉลากปิดที่งดงาม
มีการออกแบบที่ละเมียดละไมผิดจากผลิตภัณฑ์อื่น
สินค้าเหล่านี้กลายเป็นของที่ระลึกและของฝากที่สตรีทั่วโลกร่ำร้องที่จะเป็น
เจ้าของ
อีกรูปแบบหนึ่งขวดน้ำหอมเมือง Grasse ในแคว้น Provence
ได้
ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งการผลิตน้ำหอมของฝรั่งเศส
กลิ่นหอมจากดอกไม้และพืชนานาชนิดถูกนักผสมน้ำหอมหรือ Le Nez
ทำการผลิตจากการผสมกลิ่นหอมต่างๆ
และมีการตั้งชื่อด้วยคำจากภาษาวรรณกรรมหรือบุคคลเป็นส่วนใหญ่
จนเริ่มมีร้านขายน้ำหอมเปิดจำหน่ายเป็นร้านเฉพาจากเดิมที่จำหน่ายร่วมกับ
เวชภัณฑ์
โดยมีการตกแต่งร้านขายน้ำหอมอย่างดงามด้วยกระจกเงาและสีสันที่อ่อนโยน
จนทุกคนเป็นต้องเหลียวมองเมื่อเดินผ่านเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง
ทหารต่างชาติทุกชาติทุกหน่วยต่างพากันซื้อน้ำหอมของฝรั่งเศสติดไม้ติดมือ
กลับบ้านเพื่อเป็นของฝากและของที่ระลึกให้กับภรรยา คู่รัก มารดา
และพี่สาวน้องสาว
น้ำหมอจึงกลายเป็นสิ่งที่สร้างความพอใจให้ผู้รับทุกคนเป็นอย่างยิ่ง
ส่งผลให้บริโภคน้ำหอมของชาวอเมริกันพุ่งขึ้นสูงสุดในยุคร็อค แอนด์ โรล
นี้เอง
และนับแต่นั้นเป็นต้นมาอุตสาหกรรมน้ำหอมในอเมริกาก็เจริญก้าวหน้าอย่างรวด
เร็ว แม้จะเป็นกลิ่นที่สังเคราะห์ขึ้นด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์
แต่ราคาก็ต่างจากน้ำหอมของฝรั่งเศสอย่างมาก
จนทำให้น้ำหอมของอเมริกันเริ่มเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย
สามารถแบ่งตลาดน้ำหอมของฝรั่งเศสได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ
และยังครองใจวัยรุ่นได้เกือบทั่วโลกจากการแพร่ในลักษณะของสื่อแฝงทั้งภาพใน
สิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ และภาพยนตร์
จากน้ำหอมต่อยอดมาถึงผลิตภัณฑสปา
การเติบโตของอุตสาหกรรมน้ำหอมเริ่มจะอิ่มตัวในปลายศตวรรษที่ 20 แต่แล้วการเปิดตัวของ spa และ therapy house ต่างๆได้กลายเป็นตัวกระตุ้นให้ตลาดเครื่องหอมกลับแตกยอดต่อไปได้อย่างงดงาม เมื่อผลิตภัณฑ์เครื่องหอมถูกผลิตออกมาในรูปแบบแปลกๆใหม่ ทำให้ยอดของการบริโภคเครื่องหอมเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ และผลิตภัณฑ์ต่างๆล้วนถูกบรรจุในภาชนะบรรจุที่ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน ผสมผสานกับความรู้ในเชิงจิตวิทยาที่เย้ายวนความต้องการของผู้ชื้อ จนตลาดเครื่องหอมทั่วทั้งโลกถูกกระตุ้นด้วยแรงซื้ออย่างมหาศาลอีกตรั้ง สวนทางกับตลาดสิ่งฟุ่มเฟือยต่างๆอย่างเห็นได้ชัดทุกวันนี้ประเทศผู้ผลิตต่าง ระดมนักวิชาการและนักการตลาด พัฒนาสรรพความรู้และความสามารถอย่างเต็มที่ เพื่อชิงส่วนแบ่งของตลาดสินค้าชนิดนี้ให้ได้มากที่สุด เพราะสินค้าเครื่องหอมยังคงมีอนาคตที่สุดสดใสนั่นเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น