Le Vin(ไวน์)
ประเทศฝรั่งเศส นับว่าเป็นประเทศที่มีการผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงและจำนวนมากที่สุด ทั้งนี้เพราะประเทศฝรั่งเศสมีพื้นที่ที่แบ่งออกเป็นอาณาเขตจำนวนมากที่มีการ ปลูกองุ่น ซึ่งแต่ละเขตก็จะมีการผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงและคุณภาพแตกต่างกันออกไป พื้นที่ของประเทศฝรั่งเศสที่แบ่งออกเป็นอาณาเขต ๆ ที่มีการปลูกองุ่นและมีการผลิตไวน์ ได้แก่
อาณาเขตบอร์โด (Bordeaux)
เป็นอาณาเขตที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส ที่มีพื้นที่กว้างมากใช้ปลูกองุ่นและมีการผลิตไวน์ ซึ่งไวน์ที่ผลิตจากอาณาเขตบอร์โดนี้มีชื่อเสียงมากกว่า 2,000 ปีแล้ว ไวน์ที่ผลิตในอาณาเขตนี้ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คือ ไวน์ชนิดคลาเร็ท (Claret) หมายถึง ไวน์แดง (Red Wine) ที่ผลิตในเมืองบอร์โดเท่านั้น ส่วนไวน์แดงที่ผลิตในอาณาเขตบอร์โดที่ผลิตจากเมืองอื่น ๆ ไม่ใช่เมืองบอร์โด เราเรียกว่า ไวน์บอร์โดเนื่องจากอาณาเขตบอร์โดเป็นอาณาเขตที่มีพื้นที่กว้างมากจึงเป็นสาเหตุให้อาณาเขต บอร์โดถูกแบ่งออกเป็นเขตย่อย ๆ ลงไปอีก 5 เขตใหญ่ ๆ และกับอีก 3 เขตที่มีพื้นที่น้อยกว่า 5 เขตแรก คือ
เขตที่ 1 เขตเมด็อก (Médoc)
เป็นเขตที่อยู่ทางตอนเหนือของอาณาเขตบอร์โด
ไวน์ที่ผลิตในเขตนี้ที่มีชื่อเสียงเป็นไวน์แดง
ซึ่งในเขตนี้มีบริเวณที่ผลิตไวน์แดงที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงมากมี
อยู่ 4 บริเวณ คือ บริเวณโปอีลัก (Pauillac), บริเวณแซงยือเหลียง
(ST.Juluien), บริเวณมาโก (Margaux) และบริเวณแซงเอสเทฟ (ST.Estephe)
ไวน์แดงที่มีชื่อเสียงของเขตนี้ ได้แก่
2. ชาโต ลาตรู (Châteua Latour)
3. ชาโต มาโก (Châteua Margaux)
4. ชาโต มูตง (Châteua Mouton)
5. ชาโต พาลเมร์ (Châteua Palmer)
สำหรับไวน์ที่ผลิตในเขตนี้ยังถูกแบ่งออกเป็นเกรดตามคุณภาพของไวน์นั้น ๆ ซึ่งไวน์ที่ผลิตในเขตนี้แบ่งออกเป็น 5 เกรด คือ
เกรดที่ 1 ได้แก่
- ชาโต ลาฟีท (Châteua Lafite)
- ชาโต มาโก (Châteua Margaux)
- ชาโต ลาตูร์ (Châteua Latour)
เกรดที่ 2 ได้แก่
- ชาโต มูตง โรสซิล (Châteua – Mouton – Rothschild)
- ชาโต โรซอง กาสซิ (Châteua – Rauzan – Gassies)
- ชาโต มองโรส (Châteua Montrosr)
เกรดที่ 3 ได้แก่
- ชาโต เคอวอง (Châteua Kirwan)
- ชาโต พาลเมร์ (Châteua Palmer)
- ชาโต ซิลกูร์ (Châteua Giscours)
เกรดที่ 4 ได้แก่
- ชาโต แซง พีแอร์ (Châteua Saint – Pierre)
- ชาโต พูเก (Châteua Pouget)
- ชาโต ลาตูร์ การ์เน (Châteua La tour – Carnet)
เกรดที่ 5 ได้แก่
- ชาโต พอนเต การ์เน (Châteua Pontet – canet)
- ชาโต เลอ แตร (Châteua La Tertre)
- ชาโต กองเตอเมร์ (Châteua Cantemerle)
เขตที่ 2 เขตกราว (Graves)
เขตนี้เป็นเขตที่มีความสำคัญรองจากเขตที่หนึ่งเป็นเขตที่อยู่ทางตะวันตกตอนใต้ ของเขตเมด็อก สำหรับไวน์ที่มีการผลิตในเขตนี้นั้นมีทั้งไวน์แดง และไวน์ขาว แต่ไวน์ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากที่ผลิตในเขตนั้นจะเป็นไวน์ขาว ซึ่งไวน์ขาวที่ผลิตในเขตนี้จะถูกเรียกว่า กราวไวน์ และคุณลักษณะของไวน์ที่ผลิตในเขตนั้จะมีคุณลักษณะที่ใกล้เคียงกับไวน์ที่ ผลิตในเขตเมด็อกมาก สำหรับบริเวณในเขตนี้ที่มีการผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงมีอยู่ประมาณ 3 บริเวณ คือ บริเวณแปซัค (Pessac), บริเวณเลอ๊อกน็อง (L?ognan) และบริเวณมาร์ตีลัก (Martillac) ไวน์แดงและไวน์ขาวที่ผลิตในเขตนี้และมีคุณภาพชื่อเสียงดี ได้แก่
1. ชาโต บุลโก (Châteua Bouscaut)
2. ชาโต โอ เบยี (Châteua Haut – Bailly)
3. ชาโต ลาตูร์ โอ บรีออง (Châteua Latour – Haut – Brion)
4. ชาโต ป๊อบ เคลม็อง (Châteua Pape Cl?ment)
5. ชาโต ลาตูร์ มาร์ตัลัก (Châteua Latour – Martillac
ไวน์ขาว
1. ชาโต บุลโก (Châteua Bouscaut)
2. ชาโต เครสมอง ลาตูร์ (Châteua Kressmann Latour)
3. ชาโต ลาวิล โอ บรีออง (Châteua Laville – Haut – Brion)
4. ชาโต คูแอง (Châteua Couhins)
เขตที่ 3 เขตโซแตร์น (Sauternes)
เป็นเขตที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเขต Graves และมีบริเวณที่มีการปลูกองุ่นและผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงถึง 5 บริเวณด้วยกันคือ บริเวณโซแตร์น (Sauternes), บริเวณบอมม์ (Bommes), บริเวณฟักเกอร์ (Fargues), บริเวณบาร์ซัค (Barsac) และบริเวณเพลออิยัค (Preignac) ไวน์ ที่ผลิตในเขตนี้ที่มีชื่อเสียงมากเป็นไวน์ขาว และไวน์ขาวที่ผลิตในเขตนี้ถือว่าเป็นไวน์ขาวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดจนได้ รับสมญานามว่า คิง ออฟ ไวต์ ไวน์ (King of White Wine) ไวน์ ที่ผลิตในเขตนี้มีคุณลักษณะรสชาติหวานและเป็นไวน์ที่มีรสชาติหวานกว่าไวน์ ที่ผลิตจากเขตอื่น ๆ เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว สำหรับไวน์ที่มีชื่อเสียงที่ผลิตในเขตนี้ ได้แก่
1. ชาโต ดีเคม (Châteua D’Yquem)
2. ชาโต ลาตูร์ บล็อง (Châteua La Tour Blanche)
3. ชาโต คูเต (Châteua Coutet)
4. ชาโต กุยโร (Châteua Guiraud)
5. ชาโต เรียแซก (Châteua Rieussec)
6. ชาโต ลาโมท (Châteua Lamothe)
7. ชาโต เนแร็ค (Châteua Nairac)
8. ชาโต ซูคุยโร (Châteua Suduiraut)
เขตที่ 4 – 5 เขตแซงเออร์มิริอง – เขตปอมรอล (ST.Emilion – Pomerol)
เขตสองเขตนี้อยู่ใกล้กันมาก และเป็นเขตที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเขตบอร์โด เขตทั้งสองนี้มีการผลิตไวน์แดงที่มีชื่อ และเป็นไวน์แดงที่มีลักษณะรสชาติแรงพอสมควร สำหรับไวน์ของทั้งสองเขตนี้ที่มีชื่อเสียง ได้แก่
ไวน์เขตแซงเออร์มิริอง
1. ชาโต โอซ็อง (Châteua Ausone)
2. ชาโต คาน็อง (Châteua Canon)
3. ชาโต เวอวาล บรอง (Châteua Cheval Blanc)
4. ชาโต คูเต (Châteua Coutet)
5. ชาโต เลอ คูวอง (Châteua Le Couvent)
ไวน์เขตปอมรอล
1. ชาโต เพทรูส (Châteua Pètrus)
2. ชาโต ลา เฟลอร์ (Châteua Lafleur)
3. ชาโต ลา ปวง (Châteua Lapointe)
4. ชาโต ลาตูร์ ปอมรอล (Châteua Latour – Pomerol)
5. ชาโต เปอติ วีลาซ (Châteua Petit – Village)
อาณาเขตเบอร์กันดี (Burgundy)
เป็นอาณาเขตหนึ่งที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมีการผลิตไวน์สำหรับเขตที่อยู่ในอาณาเขตนี้ที่มีการปลูกองุ่นและมีการ ผลิตไวน์นั้นมีอยู่ประมาณ 4 เขตด้วยกัน แต่เขตที่มีการผลิตไวน์ได้ดีที่สุดนั้นก็คือ เขตทรูเบอร์กันดี (True Burgundy) ซึ่งทุกวันนี้รู้จักกันในชื่อเขตโก๊ตดอร์ (Côte D’Or) และเขตนี้จะประกอบด้วยบริเวณสองบริเวณด้วยกันคือ บริเวณโก๊จ เดอ นุย (Côte De Nuits) และ บริเวณโก๊ต เดอ โบน (Côte De Beaune)
สำหรับไวน์ที่ผลิตจากเขตโก๊ตดอร์ บริเวณโก๊ตดอร์ เอด นุย นั้นจะเป็นไวน์ที่มีลักษณะรสชาติเข้มข้น และมีกลิ่นขององุ่นมาก จะต้องเก็บไว้ให้นานก่อนที่จะนำมาดื่มได้ ส่วนไวน์ที่ผลิตจากบริเวณโก๊ต เดอ โบน นั้นจะมีลักษณะตรงกันข้ามคือ จะมีลักษณะรสชาติไม่เข้มข้นมาก และมีกลิ่นองุ่นหอม เป็นไวน์ที่ไม่ต้องเก้ฐไว้นานนักก่อนที่จะนำมาดื่ม ไวน์ที่ผลิตจากเขตโก๊ตดอร์นี้มักจะถูกเรียกชื่อตามชื่อของบริเวณที่ทำการ ผลิต ไวน์ที่ผลิตในเขตโก๊ตดอร์ที่มีชื่อ ได้แก่
1. โรมาเน กงตี (Romanèe – Conti)
2. โกล เอด วูชัว (Clos De Vougeot)
3. โกล เดอ แตร์ (Clos De Tart)
4. วอลเนย์ (Volnay)
5. เล มูซินิก (Les Musigny)
6. โกล เด ลอมแบร์ (Clos Des Lambray)
7. เล แซง ชอกเชอร์ (Les Saint Georges)
8. เลอ กอร์ตอง (Le Corton)
9. โกล ดู รัว (Clos Du Roi)
10. เล รูเชียง บาส (Les Rugiens – Bas)
ในอาณาเขตเบอร์กันดี จอกจากจะมีเขตโก๊ตดอร์ที่มีการปลูกองุ่นและทำการผลิตไวน์ ยังมีอีกเขตหนึ่งที่มีการปลูกองุ่นและผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงมากก็คือ เขตชาบลี (Chablis) เป็น เขตที่มีการผลิตไวน์และไวน์ที่ผลิตจากเขตนี้มักถูกเรียกชื่อตามบริเวณที่มี การไวน์ชนิดนี้ ไวน์ที่ผลิตจากเขตชาบลีนั้นจะมีคุณลักษณะเฉพาะตัวคือ มีรสชาติจืด นุ่ม และมีสีลักษณะสีทอง สำหรับไวน์ที่ผลิตขากเขตชาบลีที่มีชื่อเสียงมาก ได้แก่
1. เล โกล (Les Clos)
2. โวเดซีล์ (Vaudésir)
3. วาลมูร์ (Valmur)
4. บรองโช (Blanchots)
5. บูโกส (Bougros)
การจัดลำดับชั้นของไวน์ฝรั่งเศส
ไวน์ฝรั่งเศสทั้งแดง ขาว และโรเซ่ ไวน์ประเภทมีฟอง หรือ ประเภทหวานมาก,หวานน้อย,ไม่หวาน, ดราย มีระดับแอลกอฮอล์ต่างๆ ตั้งแต่ 8–14 ดีกรี และสูงกว่า ทุกชนิดจัดแบ่งตามมาตรฐาน คุณภาพโดยทางการฝรั่งเศสแบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ
1. Appellation d’ Origine Controlee – AOC (อัปเปอลาซิยง ดอริจิ้น กงโทลเล่)
ไวน์ ผลิตภายใต้การควบคุมคุณภาพมาตรฐานกรรมวิธีการผลิตอย่างเข้มงวดกวดขัน ละเอียดถี่ถ้วน รวมไปถึงการควบคุมสายพันธุ์องุ่น การปลูก ปริมาณการผลิต ทำเล และขนาดของไร่องุ่น ฯลฯ โดยกฎหมายและทางการฝรั่งเศส ตลอดจนองค์กรอื่นๆ เช่น Institute National des Appellation d’ Origine – NAO สถาบันแห่งชาติ ทำการควบคุมดูแลตรวจสอบขั้นตอนต่างๆ และคุณภาพไวน์อย่างจริงจังอย่างต่อเนื่อง เพราะฝรั่งเศส ถือว่าอุตสาหกรรมไวน์ และไวน์ฝรั่งเศสทุกขนานเป็นภูมิฐาน ความมีศักดิ์ศรี ความหยิ่งผยอง ทรนง ความภาคภูมิใจของชาติที่เป็นเครื่องเชิดหน้าชูตา อันสง่างาม เป็นตัวแทนของประเทศสมกับที่ได้รับการยกย่อง สรรเสริญได้รับความไว้วางใจ ได้รับความนิยมชมชอบจากชาวโลกผู้รักไวน์ทั้งหลายเสมอมา
2. Vin Delimite de Qualite Superieure – VDQS (แว็ง เดอลิมิตเต้ เดอ กาลิเต้ ซุปเปริเยอร์)
ไวน์ผลิตภายใต้การควบคุมกฎเกณฑ์กรรมวิธีการผลิตให้ได้มาตรฐานคุณภาพตามที่ ทางการฝรั่งเศสกำหนดเข้มงวดกว่า Vin de Pays ระดับหนึ่ง
3. Vin de Pays (แว็ง เดอ เปอี)
ไวน์ระดับคุณภาพมาตรฐานถูกควบคุมโดยทางการฝรั่งเศส แต่ไม่เข้มงวดมากนัก มีการควบคุมแหล่งผลิต ทำเล และขนาดของไร่องุ่น Origin ตลอดจนมารตรฐานคุณภาพขั้นพื้นฐาน Basic Quality ของไวน์นั้นอย่างไม่เป็นทางการ ระบบการควบคุมที่ยืดหยุ่นนี้ เปิดโอกาสให้ชาวไร่องุ่น Growers สามารถทำการทดลองผลิตไวน์นานาชนิด รสชาติแปลกใหม่ด้วยการผสมองุ่นสายพันธุ์ต่างๆ ในอัตราส่วนไม่ซ้ำซ้อน ด้วยกรรมวิธีใหม่ๆ ออกสู่ตลาดได้อย่างอิสระ เพื่อคนรักไวน์จะได้มีโอกาสได้ลิ้มชิมรสไวน์ ที่น่าตื่นเต้นขนานแปลกๆ ใหม่ๆ อยู่เสมอ ไวน์ระดับนี้มีคุณภาพมาตรฐานสูงกว่า Vin de Table ชนิดตั้งโต๊ะ และไวน์คุณภาพดีบางตัวจากระดับนี้ อาจจะมีโอกาสได้ขึ้นชั้นมาอยู่ในระดับ AOC ได้ด้วย
4. Vin de Table (แว็ง เดอ ตาบเบลอ)
ไวน์ระดับคุณภาพต่ำใช้ดื่มแทนน้ำ ประเภทตั้งโต๊ะ ไม่มีการควบคุมมาตรฐานโดยทางการ แต่อย่างไรชาวไร่องุ่น Growers และเจ้าของโรงงานผลิตไวน์ Winery สามารถผลิตไวน์นี้ออกมาอย่างอิสระ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น