ฤดูกาลในฝรั่งเศส
ฝรั่งเศสเป็นประเทศหนาวในปีหนึ่งแบ่งออกเป็น 4 ฤดู แต่ละฤดูจะกินเวลา 3 เดือน วันเดือนที่กำหนดว่าเป็นวันเริ่มต้นและวันสิ้นสุดของแต่ละฤดู นั้นจริง ๆแล้วไม่ได้หมายความว่าอากาศจะต้องเปลี่ยนแปลงอย่างนั้นจริง ๆวันเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิบางปีในบางท้องถิ่นอากาศจะหนาวมากกว่าฤดูหนาวในบางถิ่น ฤดูทั้ง 4 ของฝรั่งเศสมีดังนี้คือ
1. ฤดูใบไม้ผลิ ( le printemps ) ฤดูใบไม้ผลิเริ่มวันที่ 21 มีนาคม สิ้นสุดวันที่
21 มิถุนายน ในฤดูนี้อากาศจะอบอุ่นขึ้น ต้นไม้ที่โกร๋นปราศจากใบมาตลอด
เวลา 3 เดือนในฤดูหนาวที่หนาวเย็นจะเริ่มผลิใบ การเปลี่ยนแปลงนี้รวดเร็วมาก ในเวลาไม่กี่วันหลังอากาศอบอุ่นต้นไม้จะผลิใบ
เขียวชอุ่ม ปลายเดือนมีนาคมและเดือนเมษายนอากาศจะไม่แน่นอน ในช่วงนี้จึง
ยังคงเก็บเสื้อโค้ตไม่ได้เพราะอากาศจะหนาวเมื่อไรก็ได้
บางทีอาจจะมีฝนตกบ้าง อากาศจะดีจริง ๆ ในเดือนพฤษภาคม
ฤดูใบไม้ผลิเป็นฤดูที่สวยงาม
ฟ้าจะเป็นสีฟ้าใส พระอาทิตย์ซึ่งไม่เคยปรากฏในฤดูหนาวเริ่มส่องแสง ฤดูนี้
ได้ชื่อว่าเป็นฤดูแห่งดอกไม้แห่งงานฉลองแห่งความรัก ( la saison des
fleurs, des fêtes, des amours ) มีงานฉลองมากมาย เช่น พิธีรับศีลจุ่ม พิธีแต่งงาน
ฯลฯ สำหรับนักเรียนนักศึกษา เดือนอากาศดีนี้หมายถึงการสอบปลายปี
ด้วย แม้ว่าฤดูใบไม้ผลิจะเป็นฤดูที่ทุกคนคิดว่าเป็นฤดูที่สวย
งาม อากาศดี แต่ก็เป็นฤดูที่อากาศไม่แน่นอน อากาศจะเปลี่ยนแปลงอย่างไม่คาด
หมาย imprévisible ก็ได้แต่ฤดูใบไม้ผลิก็นับว่าเป็นฤดูที่ดีที่สุดฤดูหนึ่งของปี
2.ฤดูร้อน ( l’été ) เริ่มวันที่ 22 มิถุนายน สิ้นสุดวันที่ 22 กันยายน ฤดูร้อนเป็นฤดูที่กลางวันยาวมาก เมื่อกลางวันยาว กลางคืนก็สั้นประมาณ 6 – 7 ชั่วโมง กลางวันยาวในที่นี้หมายความว่าพระอาทิตย์ตกดินช้า สามทุ่ม หรือสี่ทุ่มยังไม่มืด เมื่อไม่มืดก็มีความรู้สึกว่ายังไม่ถึงกลางคืน ในประเทศสแกนดิเนเวียนนั้นในฤดูร้อน กว่าพระอาทิตย์ตกดินหรือจะมืดก็ประมาณ ห้าทุ่มหรือเที่ยงคืน กลางคืนจะยาวประมาณ 6 – 7 ชั่วโมง ฤดูร้อนในฝรั่งเศสอากาศร้อนผู้คนจึงไปชายทะเล ฤดูร้อนเป็นฤดู แห่งวันหยุดผู้คนเฝ้ารอฤดูนี้เพื่อจะได้ไปเที่ยวทะเล เพื่อจะได้อาบ แดด เพื่อจะได้รับประทานผลไม้สด ๆ เช่น สตรอเบอรี่ แต่ในฤดูร้อนผลไม้ยังไม่อร่อย ต้องรอให้ผลไม้สุกเสียก่อน ฤดูร้อนบางปีอากาศอาจจะไม่ดีฝนตกบ่อย ๆ ฤดูร้อนที่อากาศไม่ดีเรียกว่า été pourri ความหมายก็บอกว่าไม่เพลิดเพลิน เป็น “ฤดูร้อนที่เน่าเสีย” คาดว่า “été canicule” หมายถึงช่วงต้นฤดูร้อนที่อากาศร้อนมาก บางเมืองอากาศจะร้อนมาก อุณหภูมิที่สูงสุดในฤดูร้อนในฝรั่งเศสประมาณ 30 องศาเซลเซียส ซึ่งร้อนมากสำหรับประเทศหนาว ทำให้คนอยากไป vacances โดยเฉพาะคนที่อยู่ในเมืองใหญ่อย่างปารีส
3. ฤดูใบไม้ร่วง ( l’automne ) ฤดูใบไม้ร่วงเริ่มต้นวันที่ 23 กันยายน สิ้นสุดวันที่ 21 ธันวาคม อากาศที่สดใส แดดจ้าในฤดูร้อนเริ่มเปลี่ยน ท้องฟ้าสีเทา ลมแรง ใบไม้เริ่มเปลี่ยนจากสีเขียวมาเป็นสีเหลือง กลางวันสั้นมากขึ้นกลางคืนยาวขึ้นใบไม้สีเหลือง แห้งและร่วง ฤดูใบไม้ร่วงก็เหมือนฤดูอื่น ๆ คือ อาจจะเป็นฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศดีหรือฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศไม่ดี คือ ฝนอาจจะตกบ่อยตอนต้นฤดูอากาศมักจะดีตอนปลายฤดูคือ เดือนพฤศจิกายนอากาศจะไม่ดีท้องฟ้าเป็นสีเทาและมืดครึ้มตอนที่ใบไม้ร่วง ต้นไม้โกร๋นเป็นตอนที่เศร้าแต่ฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูที่สวยฤดูหนึ่ง เพราะใบไม้ที่เปลี่ยนสีทำให้ฟ้าสวยงามหาที่เปรียบไม่ได้ ป่าไม้ในฤดูใบไม้ร่วง ( ตอนต้นและตอนกลางฤดู )จะใช้คำขยายว่า coloré ซึ่งหมายถึงระบายด้วยสีประดับด้วยสี ( อันสวยงาม ) “ศิลปินมักจะให้ฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูที่สวยที่สุด เนื่องจากสีใบไม้ที่เปลี่ยนสีแตกต่างกันมากมายหลายสีซึ่งธรรมชาติเท่านั้นจะทำได้ ทางใต้ของฝรั่งเศสอากาศจะไม่หนาวแต่มีลมแรง ( mistral ) ทางใต้จึงปลูกต้นไม้ที่สู้ลมได้ เช่น ต้นมะกอก ( olivier ) ต้นโอ๊ค ( chêne vert ) และต้นไม้ที่มีรากยาว ๆ เช่น องุ่น ฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูที่ดีที่สุดของคนบางกลุ่ม คนฝรั่งเศสจำนวนหนึ่งที่ชอบล่าสัตว์จะถือปืนออกล่าสัตว์ ฤดูนี้เป็นช่วงที่คนในประเทศหนาวสามารถอยู่กลางแจ้งได้ก่อนที่ความหนาวจะ คลืบคลานเข้ามาถึง
4. ฤดูหนาว ( l’hiver ) เริ่มวันที่ 22 ธันวาคม สิ้นสุดวันที่ 20 มีนาคมปลายฤดูใบไม้ร่วง กลางวันสั้นมากขึ้น ท้องฟ้ามืดครึ้ม ฤดูหนาวในประเทศหนาวหรือประเทศฝรั่งเศสคือ ความหนาว ฝนและหิมะ แต่ฤดูหนาวก็เหมือนฤดูอื่น ๆ คือ เป็นฤดูที่คนบางกลุ่มเฝ้ารอ นั่นคือผู้ที่ชอบกีฬาฤดูหนาวและผู้ทำธุรกิจเกี่ยวกับกีฬาฤดูหนาวเมืองที่อยู่บริเวณภูเขาและเป็นสถานีสกี ( Stations de ski ) จะคึกคักและมีชีวิตชีวาฤดูหนาวเป็นฤดูแห่ง “sports d’hiver” ครอบครัวหรือโรงเรียนจะพาลูก ๆ และเด็ก ๆ ไปเล่นสกีบนภูเขาในช่วง vacances de neige ผู้เดินทางในการขับรถที่อยู่ในเขตภูเขาที่มีหิมะตกจะต้องมี pneus à clous หรือ roués avec chaine ซึ่งเป็นยางรถที่ใช้บนถนนที่ลื่นด้วย vergla ( ฝนปนหิมะ ) gel ( น้ำที่แข็งตัว ) และ dégel ( น้ำแข็งที่ละลายแล้ว ) นอกจากเจ้าของรถจะต้องเตรียมรถของตนให้พร้อมที่จะแล่นไปบนถนนที่อันตราย แล้วทางราชการก็เตรียม chasse – neiges ( รถกวาดหิมะ ) เพื่อเปิดทางหากหิมะตกมาก ๆ บนทางหลวงก็จะมีกระสอบทรายและกระสอบเกลือวางไว้ประจำฤดูหนาวเป็นฤดูแห่งงานฉลองจะเห็นว่ามีเทศกาลหลายเทศกาลในฤดูนี้ เช่น Fête de Saint – Nicolas, Noël, Nouvel An, Fête des Rois, Carnavalนอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีอากาศปานกลาง ( le climat doux et tempéré ) ของยุโรปแล้วอากาศในฝรั่งเศสยังแตกต่างกันตามลักษณะภูมิประเทศ และลักษณะที่เด่นคือ ความไม่แน่นอน อากาศแต่ละฤดูไม่เหมือนกัน และฤดูเดียวกันในแต่ละปีก็ไม่เหมือนกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น