วันพุธที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ฤดูกาลในฝรั่งเศส

ฤดูกาลในฝรั่งเศส

          
          ฝรั่งเศสเป็นประเทศหนาวในปีหนึ่งแบ่งออกเป็น 4 ฤดู แต่ละฤดูจะกินเวลา 3 เดือน วันเดือนที่กำหนดว่าเป็นวันเริ่มต้นและวันสิ้นสุดของแต่ละฤดู นั้นจริง ๆแล้วไม่ได้หมายความว่าอากาศจะต้องเปลี่ยนแปลงอย่างนั้นจริง ๆวันเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิบางปีในบางท้องถิ่นอากาศจะหนาวมากกว่าฤดูหนาวในบางถิ่น ฤดูทั้ง 4 ของฝรั่งเศสมีดังนี้คือ


          1. ฤดูใบไม้ผลิ ( le  printemps ) ฤดูใบไม้ผลิเริ่มวันที่ 21 มีนาคม สิ้นสุดวันที่
21 มิถุนายน  ในฤดูนี้อากาศจะอบอุ่นขึ้น  ต้นไม้ที่โกร๋นปราศจากใบมาตลอด เวลา 3 เดือนในฤดูหนาวที่หนาวเย็นจะเริ่มผลิใบ การเปลี่ยนแปลงนี้รวดเร็วมาก ในเวลาไม่กี่วันหลังอากาศอบอุ่นต้นไม้จะผลิใบ เขียวชอุ่ม  ปลายเดือนมีนาคมและเดือนเมษายนอากาศจะไม่แน่นอน  ในช่วงนี้จึง ยังคงเก็บเสื้อโค้ตไม่ได้เพราะอากาศจะหนาวเมื่อไรก็ได้   บางทีอาจจะมีฝนตกบ้าง   อากาศจะดีจริง ๆ  ในเดือนพฤษภาคม   ฤดูใบไม้ผลิเป็นฤดูที่สวยงาม   ฟ้าจะเป็นสีฟ้าใส  พระอาทิตย์ซึ่งไม่เคยปรากฏในฤดูหนาวเริ่มส่องแสง  ฤดูนี้ ได้ชื่อว่าเป็นฤดูแห่งดอกไม้แห่งงานฉลองแห่งความรัก  ( la saison  des  fleurs, des  fêtes,  des amours ) มีงานฉลองมากมาย เช่น พิธีรับศีลจุ่ม  พิธีแต่งงาน  ฯลฯ  สำหรับนักเรียนนักศึกษา  เดือนอากาศดีนี้หมายถึงการสอบปลายปี ด้วย แม้ว่าฤดูใบไม้ผลิจะเป็นฤดูที่ทุกคนคิดว่าเป็นฤดูที่สวย งาม อากาศดี แต่ก็เป็นฤดูที่อากาศไม่แน่นอน  อากาศจะเปลี่ยนแปลงอย่างไม่คาด หมาย imprévisible ก็ได้แต่ฤดูใบไม้ผลิก็นับว่าเป็นฤดูที่ดีที่สุดฤดูหนึ่งของปี


           2.ฤดูร้อน  ( l’été ) เริ่มวันที่  22  มิถุนายน  สิ้นสุดวันที่  22 กันยายน ฤดูร้อนเป็นฤดูที่กลางวันยาวมาก   เมื่อกลางวันยาว   กลางคืนก็สั้นประมาณ  6 – 7 ชั่วโมง  กลางวันยาวในที่นี้หมายความว่าพระอาทิตย์ตกดินช้า  สามทุ่ม หรือสี่ทุ่มยังไม่มืด  เมื่อไม่มืดก็มีความรู้สึกว่ายังไม่ถึงกลางคืน   ในประเทศสแกนดิเนเวียนนั้นในฤดูร้อน  กว่าพระอาทิตย์ตกดินหรือจะมืดก็ประมาณ ห้าทุ่มหรือเที่ยงคืน   กลางคืนจะยาวประมาณ  6 – 7 ชั่วโมง ฤดูร้อนในฝรั่งเศสอากาศร้อนผู้คนจึงไปชายทะเล  ฤดูร้อนเป็นฤดู แห่งวันหยุดผู้คนเฝ้ารอฤดูนี้เพื่อจะได้ไปเที่ยวทะเล  เพื่อจะได้อาบ แดด  เพื่อจะได้รับประทานผลไม้สด ๆ เช่น  สตรอเบอรี่   แต่ในฤดูร้อนผลไม้ยังไม่อร่อย   ต้องรอให้ผลไม้สุกเสียก่อน   ฤดูร้อนบางปีอากาศอาจจะไม่ดีฝนตกบ่อย ๆ  ฤดูร้อนที่อากาศไม่ดีเรียกว่า   été pourri   ความหมายก็บอกว่าไม่เพลิดเพลิน เป็น  “ฤดูร้อนที่เน่าเสีย” คาดว่า   “été  canicule”  หมายถึงช่วงต้นฤดูร้อนที่อากาศร้อนมาก   บางเมืองอากาศจะร้อนมาก  อุณหภูมิที่สูงสุดในฤดูร้อนในฝรั่งเศสประมาณ  30 องศาเซลเซียส  ซึ่งร้อนมากสำหรับประเทศหนาว  ทำให้คนอยากไป   vacances  โดยเฉพาะคนที่อยู่ในเมืองใหญ่อย่างปารีส



          3.  ฤดูใบไม้ร่วง ( l’automne ) ฤดูใบไม้ร่วงเริ่มต้นวันที่  23  กันยายน สิ้นสุดวันที่  21   ธันวาคม   อากาศที่สดใส   แดดจ้าในฤดูร้อนเริ่มเปลี่ยน   ท้องฟ้าสีเทา  ลมแรง ใบไม้เริ่มเปลี่ยนจากสีเขียวมาเป็นสีเหลือง   กลางวันสั้นมากขึ้นกลางคืนยาวขึ้นใบไม้สีเหลือง แห้งและร่วง  ฤดูใบไม้ร่วงก็เหมือนฤดูอื่น ๆ  คือ อาจจะเป็นฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศดีหรือฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศไม่ดี คือ ฝนอาจจะตกบ่อยตอนต้นฤดูอากาศมักจะดีตอนปลายฤดูคือ เดือนพฤศจิกายนอากาศจะไม่ดีท้องฟ้าเป็นสีเทาและมืดครึ้มตอนที่ใบไม้ร่วง ต้นไม้โกร๋นเป็นตอนที่เศร้าแต่ฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูที่สวยฤดูหนึ่ง   เพราะใบไม้ที่เปลี่ยนสีทำให้ฟ้าสวยงามหาที่เปรียบไม่ได้ ป่าไม้ในฤดูใบไม้ร่วง ( ตอนต้นและตอนกลางฤดู )จะใช้คำขยายว่า  coloré ซึ่งหมายถึงระบายด้วยสีประดับด้วยสี ( อันสวยงาม ) “ศิลปินมักจะให้ฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูที่สวยที่สุด เนื่องจากสีใบไม้ที่เปลี่ยนสีแตกต่างกันมากมายหลายสีซึ่งธรรมชาติเท่านั้นจะทำได้  ทางใต้ของฝรั่งเศสอากาศจะไม่หนาวแต่มีลมแรง ( mistral )  ทางใต้จึงปลูกต้นไม้ที่สู้ลมได้   เช่น  ต้นมะกอก  ( olivier ) ต้นโอ๊ค ( chêne  vert )  และต้นไม้ที่มีรากยาว ๆ  เช่น องุ่น  ฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูที่ดีที่สุดของคนบางกลุ่ม  คนฝรั่งเศสจำนวนหนึ่งที่ชอบล่าสัตว์จะถือปืนออกล่าสัตว์  ฤดูนี้เป็นช่วงที่คนในประเทศหนาวสามารถอยู่กลางแจ้งได้ก่อนที่ความหนาวจะ คลืบคลานเข้ามาถึง



          4. ฤดูหนาว ( l’hiver ) เริ่มวันที่  22  ธันวาคม สิ้นสุดวันที่  20  มีนาคมปลายฤดูใบไม้ร่วง   กลางวันสั้นมากขึ้น   ท้องฟ้ามืดครึ้ม   ฤดูหนาวในประเทศหนาวหรือประเทศฝรั่งเศสคือ  ความหนาว   ฝนและหิมะ   แต่ฤดูหนาวก็เหมือนฤดูอื่น ๆ  คือ เป็นฤดูที่คนบางกลุ่มเฝ้ารอ   นั่นคือผู้ที่ชอบกีฬาฤดูหนาวและผู้ทำธุรกิจเกี่ยวกับกีฬาฤดูหนาวเมืองที่อยู่บริเวณภูเขาและเป็นสถานีสกี ( Stations  de  ski ) จะคึกคักและมีชีวิตชีวาฤดูหนาวเป็นฤดูแห่ง   “sports  d’hiver” ครอบครัวหรือโรงเรียนจะพาลูก ๆ  และเด็ก ๆ  ไปเล่นสกีบนภูเขาในช่วง   vacances  de  neige   ผู้เดินทางในการขับรถที่อยู่ในเขตภูเขาที่มีหิมะตกจะต้องมี   pneus  à  clous  หรือ roués  avec  chaine ซึ่งเป็นยางรถที่ใช้บนถนนที่ลื่นด้วย  vergla  ( ฝนปนหิมะ ) gel  ( น้ำที่แข็งตัว ) และ dégel  ( น้ำแข็งที่ละลายแล้ว )   นอกจากเจ้าของรถจะต้องเตรียมรถของตนให้พร้อมที่จะแล่นไปบนถนนที่อันตราย แล้วทางราชการก็เตรียม  chasse – neiges ( รถกวาดหิมะ ) เพื่อเปิดทางหากหิมะตกมาก ๆ  บนทางหลวงก็จะมีกระสอบทรายและกระสอบเกลือวางไว้ประจำฤดูหนาวเป็นฤดูแห่งงานฉลองจะเห็นว่ามีเทศกาลหลายเทศกาลในฤดูนี้ เช่น   Fête  de  Saint – Nicolas, Noël,  Nouvel  An,  Fête  des  Rois, Carnavalนอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีอากาศปานกลาง  ( le  climat  doux   et   tempéré ) ของยุโรปแล้วอากาศในฝรั่งเศสยังแตกต่างกันตามลักษณะภูมิประเทศ   และลักษณะที่เด่นคือ ความไม่แน่นอน อากาศแต่ละฤดูไม่เหมือนกัน และฤดูเดียวกันในแต่ละปีก็ไม่เหมือนกัน

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น